วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประวัติ น้ำตกพลิ้ว (Namtok Phlio)


น้ำตกพลิ้ว (Namtok Phlio)



หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายชิษณุพงศ์ พรหมสัมฤทธิ์

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่หมู่ 12 ต. พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ อ.เมือง อ.แหลมสิงห์ อ.ขลุง และ  อ.มะขาม  จ.จันทบุรี เป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ที่หลากหลายชนิด อยู่ห่างจากตัวจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร อุทยานแห่งขาติน้ำตกพลิ้วมีเนื้อที่ประมาณ   134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่
ที่ตั้งและอาณาเขต
ทิศเหนือ    è ติดต่อกับตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี
ทิศใต้        è ติดต่อกับตำบลตะปอน ตำบลซึ้ง ตำบลเกวียนหัก  อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี              
ทิศตะวันออก èติดต่อกับทางหลวงชนบท อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
ทิศตะวันตก   èติดต่อกับหมู่บ้านคมบางอำเภอเมือง ตำบลพลิ้ว              
                      อำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี




ประวัติความเป็นมา
          ตามมติคณะรัฐมนตรี ในปี2517ได้กำหนดให้ป่าเขาสระบาปเป็นพื้นที่ป่าอุทยานได้มีการกำหนดพื้นที่อุทยานคือ ต.พลับพลา ต.คลองนารายณ์ ต.คมบาง อ.เมือง ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ ต.มะขา อ.มะขาม ต.มาบไพ ต.วังสรรพรส  ต.ตรอกนอง ต.ซึ้ง ต.ตะปอน ต.เกวียนหัก อ.ขลุง และปีพ..2518 ได้กำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเป็นลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยมีชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสระบาปต่อมาปี2525 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาปนายผจญ  ธนมิตรามณี ได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนชื่ออุทยานเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เพราะเห็นว่าน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกที่สวยงามและเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของอุทยานเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนโดยทั่วไปเป็นเวลามานานแล้วคณะกรรมการอุทยานจึงเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนชื่อและได้ใช้ชื่อว่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วนี้ตั้งแต่ปีพ..2525เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
หน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 1 น้ำตกตรอกนอง
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 2 บ้านอ่าง
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 3 น้ำคลองนารายณ์
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 4 น้ำตกมะกอก
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 5 กงสีไร่
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วชั่วคราวที่ 6 น้ำตกคลองลาง
    . หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วชั่วคราวที่ 7 เขาอ่าง
หน่วยงานในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตก  มีดังนี้
1.      หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่1  (น้ำตกตรอกนอง)
หัวหน้าหน่วย : นายใบ   สุภาพพูล
อยู่ในการควบคุมดูแลในเขตอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ท้องที่ ต.เกวียนหัก ต.ซึ้ง ต.ตรอกนอง และ ต.สรรพรส อ.ขลุง   การเดินทางใช้เส้นทางแยกจากน้ำตกพลิ้วไปทางจังหวัดตราด พอถึงสี่แยกเข้าอำเภอขลุงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย ขลุง-มะขามอีก 10 กิโลเมตร พอถึงตลาดตรอกนอง จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป อีกประมาณ 2 กิโลเมตร  ก็จะถึงน้ำตกตรอกนอง  น้ำตกนี้มีความสวยงามตามธรรมชาติมาก มีน้ำไหลตลอดปี ในระหว่างการเดินทางขึ้นน้ำตกจะพบกับความสวยงามของลำธารและสภาพป่าที่มีความร่มรื่น และในบริเวณนี้ก็จะมีสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก โดยจะสังเกตเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าที่ลงมากินน้ำตาม    ลำธาร เช่น หมี หมูป่า ชะมดและในบริเวณนี้ก็ยังมีถ้ำพระเจดีย์อยู่บนไหล่เขา   พระเจดีย์จะมีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่คล้ายเจดีย์ ตั้งอยู่บนไหล่เขาชาวบ้านเรียกว่า " เขาพระเจดีย์ "
2.       หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่2  (บ้านอ่าง)
หัวหน้าหน่วย : นายรัชศักดิ์   จันทกิจ
 อยู่ในการควบคุมดูแลในเขตอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ท้องที่ ต.พลับพลา อ.เมือง และ ต.มะขาม  อ.มะขาม เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเก็บกักน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาสระบาป ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์จะมีนกเป็ดน้ำมาอาศัยอยู่จำนวนมาก มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง  2.4 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ
3. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 3  (น้ำตกคลองนารายณ์)
หัวหน้าหน่วย : นายสมยศ   เพ็ชรมุณี
ตั้งอยู่ที่ ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง อยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวเมือง จ.จันทบุรี 6 กิโลเมตร  น้ำตกคลองนารายณ์เป็นน้ำตกขนาดกลางลดหลั่นมาจากหน้าผาสูงชันสูงประมาณ 25 เมตร มีน้ำใสไหลตลอดทั้งปี เหมาะสำหรัถบผู้ที่ชอบการเดินป่าศึกษาธรรมชาติและน้ำตก และที่ตรงนี้ยังมีอ่างศาล  อ่างศาลจะอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติประมาณ 300 เมตร ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของจุลสีห์จุมพต และมีการสร้างประดิษฐานของจุลสีห์จุมพตเจดีย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นไว้กลางลำธารในรัชสมัยของพระองค์
อ่างสรงหรืออ่างหงษ์ อยู่ห่างจากอ่างศาลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็กๆไหลมาจากหน้าผาเป็นทางคล้ายหางหงษ์ ในอดีต ร.4 และ ร.5 ได้ทรงลงสรงน้ำบริเวณนี้ ในน้ำตกคลองนารายณ์ยังมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งทั่วประเทศที่ใช้ในพิธีกรรมมูรธาพิเษกในพระราชพีธีพระบรมราชาพิเษกในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะมีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร และจะเดินผ่านจุดศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำนารายณ์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาสิ้นสุดที่อ่างศิลา
4. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 4    น้ำตกมะกอก (Namtok Magog)
หัวหน้าหน่วย : นายภูเมธ   ทำเนียบ
อยู่ในการควบคุมดูแลในเขตอุทยานแห่งชาติ ท้องที่  ต.วังสรรพรส ต.มาบไพ อ.ขลุง อยู่เลยทางเข้าน้ำตกตรอกนองไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร  ตามถนนสาย ขลุง-มะขาม เดินเลียบลำธารไปอีกประมาณ 600 เมตร  น้ำตกมะกอกเป็นน้ำตกขนาดเล็กมี 2 ชั้น สายน้ำไหลจากผาสูงชัน น้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า มีน้ำตลอดปี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.1 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณด้านหลังหน่วยพิทักษ์อุทยาน
5. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 5  (กงษีไร่)   
หัวหน้าหน่วย : นายสุชาติ   ขันจอก 
อยู่ในการควบคุมดูแลบริเวณในเขตอุทยานแห่งชาติ ท้องที่ ต.เกวียนหัก ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรีอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วเป็นอ่างเก็บน้ำ
6. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วชั่วคราว ที่ 6 (น้ำตกคลองลาง)
อยู่ในการวบคุมดูแลในเขตอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ท้องที่ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
7. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตก   พลิ้วชั่วคราว ที่ 7 (เขาอ่าง)
อยู่ในการควบคุมดูแลในเขตอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ท้องที่ ต.มะขาม อ.มะขาม และ ต.มาบไพ อ.ขลุง    
ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนพื้นที่มีความลาดชันสูง จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 924 เมตร ลักษณะทางธรณีวิทยาส่วนที่เป็นหิน ส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีประเภทหินแกรนิต ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน และพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีลำห้วยเล็ก ๆ หลายสาขา ที่มีน้ำไหลตลอดปี เช่น คลองนารายณ์ คลองพลิ้ว คลองตรอกนอง คลองมะกอก คลองซึ้ง คลองขลุง กระจายอยู่รอบพื้นที่
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะอุตุนิยมวิทยาโดยทั่วไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศไทยจะอยู่ภายใต้อิทธิพลลมมรสุม โดยพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลมที่พัดมาจากประเทศจีน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เดือนกุมพาพันธ์ ทำให้เกิดฤดูหนาวซึ่งไม่ถึงกับหนาวจัด อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.6 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 23.2 องศาเซลเซียส ลมมรสุมอีกชนิดหนึ่ง คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ พัดมาจากมหาสมุทรเอาความชื้นและไอน้ำจากทะเลเข้ามาทำให้เกิดฤดูฝน และในช่วงเปลี่ยนฤดูลมมรสุมตั้งแต่เดือนมีนาคม เดือนเมษายน จะเป็นฤดูร้อน ซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าวก่อนที่จะเริ่มฤดูฝนต่อไปในเดือนพฤษภาคม



พื้นที่ทางชีวภาพของสัตว์ป่า
          พื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีสภาพป่าดงดิบที่สมบูรณ์มากจึงทำให้มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดมาอาศัยอยู่เช่นไก่ฟ้าหลังเงินจันทบูรณ์ ชะนีมงกุฎ,ลิงค่าง,ลิ่นชวาจำพวกนกเช่นนกโพระดก,นกหัวขวาน,นกจับคอน นกกระเต็น นกเงือก และนกตะขาบทุ่ง
พื้นที่พันธุ์พืช
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วจะมีความหลากหลายของพันธุ์พืชสามารถได้ ดังนี้
*เรือนยอดชั้นบน  คือชั้นบนสุดของป่าไม้บริเวณมีจะมีขนาดสูงใหญ่และขึ้นกระจายปกคลุมพื้นที่อยู่ประมาณ60เปอร์เซ็นต์ ต้นไม้ชั้นนี้ได้แก่ ต้นพุงทะลาย   ต้นเคี่ยมคะนอง ต้นพนอง ต้นยางแดง
*เรือนยอดชั้นกลาง คือชั้นรองลงมาจากชั้นบนสุด ไม้ชั้นนี้มีความหนาแน่นมากกว่ากว่าไม้ชั้นบนมากเพราะชั้นนี้ไม้จะขึ้นได้ง่ายกว่าชนิดพันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่  ต้นกฤษณา,ต้นเหมือดคนตัวแม่,ต้นหย่อง,ต้นกระท้อน นอกจากนี้ยังพบพืชอิงอาศัยหลายชนิดเกาะอยู่ตามกิ่งและลำต้นของต้นไม้เช่น ชายผ้าสีดา,กระแตไต่ไม้,ข้าหลวงหลังลาย ,ย่านลิ้นควาย และเหลืองจันทบูร
*เรือนยอดชั้นล่าง คือชั้นล่างสุดของภูเขาและเป็นชั้นที่มีความหนาแน่นน้อยพันธุ์ไม้ส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกไม้ที่หล่นมาจากพันธุ์ไม้ชั้นกลาง

จุดเด่นที่น่าสนใจ
1.น้ำตกพลิ้ว
2.อลงกรณ์เจดีย์
3.ปิรามิดพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
4.ปลาพวง
5.จุดชมวิว
6.เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
น้ำตก
น้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมาบรรจบกัน ในแอ่งน้ำที่ใสมาก  สามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลองมีปลาหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาพลวงหินและปลาเหล่านี้ก็จะกินผักเป็นอาหาร   
อลงกรณ์เจดีย์
สร้างด้วยศิลาแลงเมื่อ พ.ศ. 2419 บริเวณหน้าผาด้านหน้าของน้ำตกพลิ้ว  โดยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วพร้อมกับพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทั้งสองพระองค์ทรงโปรดปรานน้ำตกพลิ้วมาก และพระราชทานนามว่า " อลงกรณ์เจดีย์ "
ปิรามิดพระนางเรือล่ม
          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2424  เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักและความอาลัยของพระองค์ที่ทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์หลังจากพระนางเสด็จฑิวงคตจากอุบัติเหตุเรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา  ภายในปิรามิดจะบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าเอาไว้ด้วย





ปลาพลวงหิน
          เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในลำธารที่มีน้ำใสสะอาดและมีน้ำไหลตลอดปี เป็นปลากินพืช เช่นกินถั่วฝักยาว ผักบุ้ง  แตงกวา และผักอื่น ขนาดตัวจะยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ในลำธารและอ่างน้ำของน้ำตกพลิ้วมีฝูงปลาพลวงอาศัย อยู่เป็นหมื่นกว่าตัว จึงเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่เลย
จุดชมวิวและสถานที่กางเต็นท์
จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขึ้นไปตามเส้นทางลาดยางค่อนข้างชัน มีระยะทางประมาณ 250 เมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพของชายหาดแหลมสิงห์ มองเห็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ในเขตอุทยาน   มอง เห็นสวนผลไม้ สวนยาง และเขตที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และชมพระอาทิตย์ตกทะเลยามเย็นในบริเวณนี้อุทยานฯได้จัดสถานที่ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรม
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเดินศึกษาธรรมชาติในเส้นทางด้วยตนเองในเส้นทาง มีจุดศึกษาธรรมชาติ 11 จุดซึ่งในแต่ละจุดจะมีป้ายสื่อความหมายธรรมชาติติดตั้งไว้ จุดสิ้นสุด อยู่บริเวณด้านหน้าอลงกรณ์ เจดีย์ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง





บ้านพักนักท่องเที่ยว
บ้านชลธาร มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคา 1800/คืน
บ้านแฝดพลิ้ว มี 3ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคา 1800  /คืน  มีห้องรับแขก
ค่ายพักแรม มี 2 ห้องใหญ่ ห้องละ 15 คน ราคา 1500 /คืน/ห้อง
อาคารเรือนนอนชาย-หญิง ที่ตรอกนอง ห้องละ 30 คน ราคา 3000 /คืน




+++ ราคาเต็นท์ +++
เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท / คืน
เต็นท์ขนาด 8 คน ราคา 600 บาท / คืน  ทั้ง 2 ขนาด ไม่รวมราคาเครื่องนอน

=== ราคาเครื่องนอน ===
หมอน 10 บาท / ใบ
ยางรองนอน 20 บาท / ผืน
ถุงนอน 30 บาท / ใบ
ราคาบัตร 
คนไทย         ผู้ใหญ่   40   บาท    เด็ก  20    บาท     
ต่างชาติ        ผู้ใหญ่  200  บาท เด็ก     100   บาท


ส่วนผู้สูงอายุ,พระภิกษุ และคนพิการ ไม่เสียค่าบริการ
credit https://googledrive.com/host/0B7NKAY5rSqLJUGNEMUhjVlVwa0k/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น